10 สิ่งที่ควรเข้าใจใหม่ ก่อนไปทำการตลาด

10 สิ่งที่ควรเข้าใจใหม่ ก่อนไปทำการตลาด

<10 สิ่งที่ควรเข้าใจใหม่ ก่อนไปทำการตลาด



          สำหรับคนที่เริ่มทำจะทำธุรกิจ หรือแม้แต่มีกิจการส่วนตัวอยู่แล้วก็ตาม เชื่อว่าย่อมรู้จักคำว่า “การตลาดรวมถึงสนใจค้นหากลยุทธ์การตลาด เพื่อไปใช้กับธุรกิจหวังสร้างความเติบโตให้กิจการ แต่เชื่อหรือไม่ว่าหลายๆ คนไม่ได้เข้าใจหรือมีความเข้าใจผิดในเรื่องของการตลาดอยู่มาก บ้างก็คิดว่าทำถูกอยู่เพราะมันได้ผล บางทีเพียงเพราะนั่นมันเกิดบนความบังเอิญ

  1. การตลาดคือการลงทุน
              หลายคนลงทุนเพียงทำร้าน แต่งร้าน จ้างคน สต๊อกของ และเมื่อไม่มีลูกค้าจึงเพิ่งนึกได้ว่า “ต้องทำการตลาด” มีที่คิดไว้อยู่เหมือนกัน คือ ติดป้าย แจกใบปลิว แค่นี้ก็บ่นว่าทำไมไม่มีลูกค้าก็เมื่อทำแค่นั้นผลลัพธ์ตามนั้น ในเมื่อมันไม่ได้ “ลงทุนเรียกลูกค้า” ลงทุนแต่ในสิ่งที่กลายเป็นว่าลูกค้าต้องรู้ ต้องเห็น ต้องมาเอง เช่นนี้ โชคดีก็คงมี แต่ส่วนใหญ่ไม่ไปร้านอื่นๆ ที่เรียกร้องความสนใจไม่ดีกว่าหรือ? กลับตัวทันแก้ไขได้ไปต่อ ระวังให้ดีถ้าการตลาดเป็นสิ่งสุดท้าย นั่นหมายความว่าลูกค้าก็จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณจะได้ไปเช่นกัน
    ปล. ลงทุนการตลาดอาจไม่ใช่แค่เงิน แต่ลงแรง ใช้เวลา ใช้ความรู้ความคิดสร้างสรรค์นั่นก็ลงทุนประการหนึ่ง

  2. การตลาดไม่ใช่แค่กระแส
              เปิดร้านใหม่โปรโมทไปแน่นอนย่อมมีคนสนใจแต่อย่าชะล่าใจ ประเดี๋ยวพอลูกค้าเลิก “เห่อของใหม่” เขาก็กลับไปเหมือนเดิม ทีนี้ก็ไม่มีลูกค้ามากพอหรือในอีกด้านหนึ่งคิดว่าสร้างกระแสได้ แล้วจะไปต่อนั้นมันยิ่งไม่เสมอไป ขึ้นเร็ว ลงเร็ว ก็มีมากมายหลายๆ สินค้าแบรนด์ดังเป็นตัวอย่างมากมายแค่ลองคิดย้อนไป อะไรที่เคยเป็นกระแส วันนี้มีคนสนใจแน่หรือ?

  3. การตลาดนอกตำราไม่มีจริง
              หลายคนคิดว่าการตลาดมันต้องกลยุทธ์แบบนั้น เช่นนี้ ที่เขาทำ คนนั้นทำ แบบนั้นทำ ย่อมมีบ้างที่ได้ผลดี แต่อย่าคิดว่าที่เขาทำไม่มีที่มา หรือคิดว่าเอาว่ามันแปลกใหม่ทั้งที่ไม่เคยเรียนการตลาด บางอย่างเกิดจาก “ประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์” แต่มันไม่ได้หมายความ “งานมโนต้องมา”
              ก็ไม่ถึงกับว่าต้องไปร่ำเรียนกันจริงจังถึงมาทำการตลาดได้ แค่อยากให้เข้าใจท่องแท้ว่าที่ทำ มันนำมาซึ่งผลอะไร ใช่ว่าต้องตรงตำรา ตรงหลักการก่อนจะใช้ได้ เพราะไม่มีตำราไหนเขียนได้ตรงไปหมด เขาให้ได้แค่แนวทาง หลักการ สิ่งสำคัญมันใช้กับเราได้เหมาะแค่ไหน มีแผนไกลใกล้ อย่างไร
             อย่าใช้แค่ว่า เอะอะก็แค่ตามเขาไป และเชื่อหรือไม่ คนเรียนการตลาดมาก็ใช่ว่าจะประยุกต์เป็น นี่ต่างหากที่น่าจะเรียกนอกตำรา หลายคนไม่ได้เรียนการตลาดมาแต่นำไปใช้ได้ดีกว่า ก็เท่านั้นเอง

  4. การตลาดไม่ขายทุกคน!
              กลุ่มลูกค้าเป็นใคร? มักตอบอย่างไว “ใครก็ได้ อยากขายทุกคน” จริงอยู่ ใครมาซื้อก็ขาย เหมือนผ้าอนามัยผู้ชายมาซื้อ เราก็ขาย  แล้วแบบนี้ทำการตลาดจะเจาะกลุ่มใคร โปรโมทในโรงเรียนนายร้อยทหารไหม ก็ไม่ใช่จริงหรือเปล่า?
             บางคนอาจแย้ง ก็ไม่ได้ขายผ้าอนามัย ขายอาหารใครๆ ก็กินได้ อันนี้ไม่เถียง งั้นก็โปรโมททุกคนกันไป ค่าโปรโมทเท่าไหร่ ? แน่ใจว่าทุกคนจะสนใจ ทำตลาดให้ทุกกลุ่มต้องลงทุนแค่ไหนดี? แถมส่วนใหญ่ที่คิดแบบนี้ พอถามงบการตลาดที มักเบือนหน้าหนีประจำ ถึงงบมีก็ทำไม่ได้ไม่มีทางที่ใครจะชอบอะไรเหมือนกัน ถามตัวเราเองก็ได้ ทุกวันนี้ใช้ของอะไรๆ ทำไมถึงเลือกไม่เหมือนคนข้างๆ

  5. การตลาดไม่ใช่แค่มีไอเดีย
              ทำการตลาดมันต้องเจ๋ง ต้องโดน อันนี้มันก็ใช่ แต่ถ้าคิดว่าแค่ไอเดียดีนี่คือการตลาด มันก็คงไม่ใช่
              ไอเดียดีๆ ที่มืออาชีพเขาใช้ส่วนใหญ่ก็มี insight ทำ research กันมา ดูว่าแบบไหนใช่ แล้วเริ่มไปจากตรงนั้น ถ้ามันโดน ไม่ใช่ไปยังไงต่อ เขามีรอกันอยู่แล้ว ถ้ามันไม่ใช่ แก้ยังไง อันนี้เขาก็รู้ แต่ประเภทที่ไอเดียดี แค่ผุดแล้วทำ เกิดโดนขึ้นมาก็ดังพักหนึ่ง ถึงตรงนั้นยังไงต่อ? ก็ต้องรอจนถึงเวลาเกิดไอเดียใหม่ อาศัยโชคช่วยกันเอา
              ถ้าไอเดียดีมันไม่จริงล่ะ ยิ่งเสียเงิน เสียเวลา หาแผนรองรับไม่มี ดีไม่ดีก็ไม่รู้ว่าผิดที่ตรงไหน งมกันไป การตลาด

  6. การตลาดก็ต้องใช้เวลา
              หลายคนเข้าใจว่ายอดขายต้องมาพร้อมการทำการตลาด มันก็มีส่วนถูก แต่ไม่หมด บางทีก็ต้องดูสถานการณ์ตัวเองก่อน ว่าอยู่ส่วนไหนในธุรกิจ(Life Cycle) เช่น เพิ่งเปิดตัวเข้าตลาดมา แล้วอัดแคมเปญโปรโมชั่นที่แบบมั่นใจว่ายังไงก็ต้องขายดีเป็นเททิ้ง ความเป็นจริงก็ทิ้งจริงๆ ทิ้งแบรนด์ตัวเองไปเลย เพราะอย่างแรกมาใหม่ใครๆ ก็อาจแค่ลอง ไม่ก็ระแวงจะดีจริงหรือเปล่าโปรโมชั่นอาจไม่ได้ผล
             หรือใช้โปรแรงๆ ลดแลกแจกแถม ที่กะว่ายังไงก็ต้องสนใจ ระวังมองๆ ไปมันก็จะกลายเป็นเหมือนของไร้คุณภาพ ดูเกรดไม่ดี อาจขายดีตอนมีโปรฯ แต่ก็กลายเป็นว่าภาพพจน์นี้ติดไป เปิดตัวใหม่ด้วยแบรนด์เกรดไร้คุณภาพ พอปรับราคากลับขึ้นมาจะเงียบกริบ
             ถ้าของดีจริงแจกแบบทดลองใช้ก็ว่าไป แต่คนจะลองแล้วติดใจก็ต้องใช้เวลาจริงไหมล่ะ ยิ่งถ้าเรียกว่ามีแผนดีแบบนี้ก็ยิ่งมีเรื่องเวลา มาเกี่ยวข้อง

  7. 4Ps มีอะไรมากกว่าที่คิด
              พอพูดว่าการตลาด หลายคนบอกรู้จัก ก็ 4P’s Product, Price, Place, Promotion ยังไงล่ะ สินค้า ราคา ทำเล ทำโปรฯ มันก็ส่วนหนึ่ง ใช่ว่าจะผิดนัก
             แต่มักคิดมันห้วนๆ ไปกันแค่นั้นเยอะจริงๆ นี่แหละสิ่งที่เขาเรียกเรียนท่องจำ เพราะในแต่ละ P นั้นมันมีอะไรมากมาย และบาง P ก็ไม่ใช่ว่ามีความหมายไว้ตรงตัวแค่นั้น นอกจากกลยุทธ์แต่ละตัวของมันเองแล้ว ยังต้องเอามาร่วมกันให้ดี ดังที่เรียกว่า Marketing Mix
             ก่อนทำการตลาดต่อไป แค่ความหมายแท้ๆ แต่ละ P เข้าใจให้ดีก็มีประโยชน์มากแล้ว 7P’s ก็เหมือนกันสำคัญต่อธุรกิจบริการขอแค่อย่าอ่านเอาเพียงหัวข้อในตำรา แล้วคิดว่าไม่มีอะไร

  8. Promotion ไม่ใช่แค่ ลดแลก แจก แถม
              ต่อเนื่องจากข้อก่อน เพราะตอนคนทำธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่ได้เข้าใจอะไรมาก แต่ก็อยากทำการตลาด มักชอบประกาศแต่เรื่องโปรโมชั่น นี่มันก็ประเด็นหนึ่งละว่า การตลาด = โปรโมชั่น ง่ายแค่นั้นมันคงดี แต่ง่ายแค่นี้ก็เห็นทีจะยากสำเร็จด้วย แม้ว่าจะเข้าใจดีว่านี่แค่ P ตัวหนึ่งแต่มันก็ไม่ได้แค่หมายถึง ลด แลก แจก แถม การส่งเสริมการขายมันหลากหลายวิธี เอาคนหน้าตาดีมายืนที่หน้าร้านทำไมขายได้? ต้องลด แลก แจก แถมเสียที่ไหน นี่ตัวอย่างหนึ่งให้เข้าใจคำว่า โปรโมชั่น ที่มันตรงตัวกว่าหากอยู่บนคำว่า ส่งเสริม(ให้เกิด)การขาย

  9. การตลาดต้องใส่ใจ(วัดได้)
              การตลาดแท้แล้วรวมหลายศาตร์มากมาย ทั้งศิลปะ จิตวิทยา สถิติ วิทยาศาตร์ และมันควรผ่านการทดลอง ไม่แปลกใจว่าทำไมหลายคนไม่สนใจการตลาด เพราะมองพลาดว่ามันเป็นนามธรรม ที่ทำไปไม่แน่ใจว่าได้อะไรกลับมาจึงกลายเป็นว่าไม่น่าลงทุน นี่เข้าใจผิดก็ประการหนึ่ง
             จ้างคนทำงานการตลาดไม่เป็นมาก็ประการหนึ่ง ถึงไม่ได้อะไรเลย นักการตลาดดีๆ เขาย่อมมีวิธีวัดผลจนได้ และอีกส่วนก็ต้องเข้าใจไม่มีนักการตลาดคนไหน ทำการตลาดแล้วได้ผลดังใจเสมอ แต่ในความพลาดนั้น มันจะได้ช่องทางใหม่หรือเข้าใจการตลาดมากขึ้นว่าปรับแก้ไขได้ต่ออย่างไร คล้ายๆ การทดลองวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่การคาดเดา ทั้งหมดนี่ต้องวางแผนและใส่ใจในงานจริงจังถึงจะหวังผลได้

  10. การตลาดไม่ใช่พระเจ้า
             อ่านมาถึง 9 ข้ออาจเริ่มเข้าใจ เห็นทางใหม่แต่ก็อย่าได้คาดหวังสูงไปนัก
             การตลาดดี เด่น โดน แต่ยังไงก็มีมากมายธุรกิจตายเพราะการจัดการ การบริการ หรือบริหารบุคคล รวมถึงเงินทุนที่หมุนไม่ทัน และมันยังมีเรื่องของคู่แข่งที่อาจมาเหนือกว่าได้ ต้นทุน พันธมิตร หรือสิทธิ์พิเศษ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ธุรกิจแต่และเป็นเภทต้องคิดให้ทัน
             แม้ว่าการตลาดจะสำคัญ แต่มันก็ต้องไปกับปัจจัยอื่นได้ด้วย ไม่ใช่หวังแต่การตลาดจะช่วยตลอดไป และอีกประการรู้หรือไม่ ว่าหากวิเคราะห์ดีๆ การตลาดที่มีแผนรองรับดีๆ นั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อขายเสมอไป แต่ใช้ “ลดความเสี่ยง” ได้อย่างเหลือเชื่อทีเดียว


ที่มา : www.kongwiz.com

 865
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์