การออมเงินโดยการประหยัดภาษี

การออมเงินโดยการประหยัดภาษี





          วิธีการเพิ่มเงินออม ทำได้หลายวิธีด้วยกัน ทั้งการหารายได้เพิ่ม การลดรายจ่าย หรือการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งในข้อหลังสุดนี้ ล่าสุดในสัปดาห์นี้ (19 ตุลาคม 2553) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินที่จ่ายสำหรับค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ และอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินที่จ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 
 
          สาระสำคัญ คือ เนื่องจาก ในปัจจุบันผู้มีเงินได้พึงประเมินสามารถนำค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปคำนวณหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้ ได้เป็นจำนวน 10,000 บาท และยกเว้นภาษีเงินได้อีกเป็นจำนวน 90,000 บาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท  

          แต่เนื่องจาก กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญมีผู้ทำสัญญาประกันชีวิตเป็นจำนวนไม่มากนัก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ได้เสนอให้มีการพิจารณาขอหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีสำหรับค่าเบี้ยกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญเพิ่มขึ้น

          รวมทั้งในแผนพัฒนาตลาดทุนไทยก็ได้มีข้อเสนอขอให้หักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีสำหรับค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ โดยให้อยู่ในวงเดียวกันกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กสล.) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

          กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้มีเงินได้ทำสัญญา การประกันชีวิตแบบบำนาญเพื่อสะสมเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณอายุอันเป็นหลักประกันความมั่นคงในบั้นปลายของชีวิต และเพื่อเพิ่มทางเลือกในการออมดังกล่าว จึงเห็นควรกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาสำหรับค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญเพิ่มขึ้นอีก จากข้อกฎหมายปัจจุบันที่ผู้มีเงินได้สามารถหักค่าลดหย่อนและยกเว้นภาษีเงินได้ รวมไม่เกิน 100,000 บาท โดยให้ผู้มีเงินได้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอีกเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท 
   
          เมื่อรวมกับเงินได้ที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

   ดังนั้นจึงเป็นที่มาของร่างกฎกระทรวง ที่กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันภัย สำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญของผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงเฉพาะส่วนที่เกิน 90,000 บาท ให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอีกไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินได้ที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

          ทั้งนี้กำหนดให้การยกเว้นภาษีใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี 2553 ที่ต้องยื่นรายการใน ปี พ.ศ.2554 เป็นต้นไป

 


ที่มา : www.pattanakit.net

 988
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์