ในทางภาษีสรรพากรได้มีบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ รถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน หลายกรณีด้วยกันแบ่งเป็น
กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม
กำหนดห้ามมิให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนนำภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ เช่า หรือรับโอนรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต และภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือการรับบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม เว้นแต่ ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายรถยนต์ หรือให้บริการเช่ารถยนต์ดังกล่าวของตนเองโดยตรง และการให้บริการรับประกันวินาศภัยสำหรับรถยนต์ดังกล่าว ตามมาตรา 82/5 (6) แห่วงประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่42) ข้อ 2 (1)
นอกจากนี้ ยังกำหนดห้ามมิให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนนำภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ หรือรับโอนรถยนต์ที่ไม่ใช่รถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน เพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และต่อมาได้มีการดัดแปลงรถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ทั้งนี้ เฉพาะที่ได้กระทำภายในสามปีนับแต่เดือนภาษีที่ได้รถยนต์ไว้ในครอบครองไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม เว้นแต่ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายรถยนต์นั่งและรถยนต์ดังกล่าว และการให้บริการเช่ารถยนต์ดังกล่าวของตนเองโดยตรง
กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
กำหนดยอมให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำภาษีซื้อต้องห้ามเกี่ยวกับรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ดังกล่าว ไปถือเป็นรายจ่ายหรือต้นทุนของทรัพย์สินได้ตามมาตรา 65 ตรี (6 ทวิ) แห่วงประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลผลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีซื้อที่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ (ฉบับที่ 243) พ.ศ. 2534
แต่ในส่วนต้นทุนรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คนดังกล่าวนั้น กำหนดให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาสำหรับทรัพย์สินประเภทรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน หรือรถยนต์นั่ง จากมูลค่าต้นทุน เฉพาะส่วนที่ไม่เกินหนึ่งล้านบาท เว้นแต่กิจการให้เช่ารถยนต์ดังกล่าว ให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาได้เต็มมูลค่า ทั้งนี้ เฉพาะที่ได้รถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป
และยังได้กำหนดห้ามไม่ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินประเภทรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน เฉพาะส่วนที่เกินคนละหนึ่งล้านบาท และค่าเช่าทรัพย์สินประเภทรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน เฉพาะส่วนที่เช่าเกินคันละ 36000 บาท ต่อเดือน ในกรณีที่เช่าเป็นรายเดือนหรือรายปี หรือค่าเช่าส่วนที่เกินคันละ 1200 บาทต่อวัน ในกรณีที่เช่าเป็นรายวัน เศษของเดือนให้คิดเป็นวัน หากเช่าไม่ถึง 1 วันให้คำนวณค่าเช่าตามส่วนของระยะเวลาที่เช่า ทั้งนี้ โดยรวมภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิอีกด้วย
ที่มา : www.pattanakit.ne
