มารู้จักการตลาดแบบ 5A แผนการตลาดแนวใหม่สำหรับธุรกิจในยุค 4.0

มารู้จักการตลาดแบบ 5A แผนการตลาดแนวใหม่สำหรับธุรกิจในยุค 4.0

< มารู้จักการตลาดแบบ 5A แผนการตลาดแนวใหม่สำหรับธุรกิจในยุค 4.0

   

   

การตลาด นั้น เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเชื่อมระหว่าง ผลิตภัณฑ์ กับ ผู้บริโภคให้เข้าถึงกันมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักหรือสามารถเข้าถึงสินค้าได้เหมือนในอดีตอีกแล้ว แต่การตลาดในปัจจุบันนี้คือการเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค และสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง

ดังนั้นแล้ว การตลาดจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญกับธุรกิจอย่างมาก ที่เจ้าของกิจการต้องให้ความสนใจ ยิ่งในยุคที่มีการแข่งขันสูงแบบนี้ ธุรกิจที่มีความเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่านั้นยิ่งมีโอกาสที่จะเติบโตและประสบความสำเร็จมากกว่าเป็นไหนๆ

วันนี้ เพียร์ พาวเวอร​์ มีอีกหนึ่งแนวคิดที่จะช่วยให้การวางแผนการตลาดของคุณนั้นทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุค 4.0 ได้มากขึ้น จะมีอะไรบ้างไปติดตามกันเลยค่ะ

หลักการ 5A แตกต่างจากการตลาดแบบเดิมๆอย่างไร?

เพราะว่าในปัจจุบันนี้นั้นแตกต่างจากในสมัยก่อนนที่แบรนด์ต่างๆจะผลิตสินค้าออกมา ถ้าหากว่าลูกค้ามองเห็นถึงประโยนช์หรือตรงกับความต้องการก็จะเลือกซื้อสินค้านั้นไปบริโภค แต่สำหรับในปัจจุบันที่ทุกคนนั้น ติดตามข่าวสารจากจากโทรศัพท์มือถือ หรือใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์แทบจะตลอดเวลา ทำให้การตลาดรูปแบบเดิมๆนั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป

Philip Kotler เจ้าของหนังสือ Marketing 4.0 จึงได้เริ่มคิดถึงการตลาดแบบใหม่ที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนทั่วโลกมากขึ้น จึงได้เกิดเป็น ทฤษฎีการตลาด 5A นี้ขึ้น

เข้าใจถึงทฤษฎีการตลาด 5A กัน

การตลาดSME
ขอบคุณรูปภาพจาก sbdc.co.th

1. รู้จักสินค้า (Aware)

หากคุณพูดถึงครีมทาผิว ก็คนจะมีชื่อแบรนด์ขึ้นมาให้หัวของคุณเต็มไปหมดและยังมีอีกหลายแบรนด์ที่มีขายผลิตภัณฑ์ประเภทครีมทาผิวด้วยเช่นกันแต่คุณกลับไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นแบรนด์นั้นมาก่อน และถ้าหากว่าคุณคือเจ้าของกิจการ การที่จะทำให้คนเห็นหรือรู้จักสินค้าของคุณนั้นให้ได้มากที่สุดนั้นยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายของคุณมากขึ้นเท่านั้น

สำหรับในยุค 4.0 แบบนี้การโปรโมทแบรนด์สินค้านั้นเป็นเรื่องง่ายๆที่สามารถทำได้เพียงแค่ไม่กี่คลิ๊กเท่านั้น แต่ว่าทุกแบรนด์ก็ต้องการที่จะโปรโมทสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคเห็น ทำให้ผู้บริโภคนั้นมีความเคยชินกับโฆษณาและอาจจะไม่สามารถจดจำแบรนด์ของคุณได้ในครั้งแรก เจ้าของแบรนด์ทั้งหลายจึงต้องโปรโมทให้บ่อยขึ้น จำไว้ว่า ยิ่งบ่อยยิ่งดีกับแบรนด์ของคุณ

2. ชื่นชอบสินค้า (Appeal)

คอนเท้นต์ถือเป็นส่วนสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ในยุค 4.0 ซึ่งนอกเหนือจากการที่เจ้าของกิจการหรือเจ้าของธุรกิจทั้งหลายนั้นจะต้องทำให้คนเห็นหรือรู้จักแบรนด์แล้วยังต้องนำเสนอคอนเท้นต์ที่มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ให้ประโยชน์กับผู้บริโภคและทำให้ผู้บริโภคนั้นชอบและประทับใจในแบรนด์ของคุณ

ซึ่งในโลกออนไลน์นั้นเจ้าของแบรนด์สามารถวัดความชื่นชอบเหล่านี้ได้ง่ายๆจากการ กดไลค์ คอมเม้นต์ หรือ ยอดการแชร์ที่ผู้บริโภคอยากที่จะบอกต่อกับการโปรโมทของคุณหรือไม่

3. Ask (เรียนรู้)

เพราะการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ว่าใครก็สามารถบอกต่อหรือหาความรู้ได้จากอินเตอร์เนตทำให้ผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของผลิตภัณฑ์ จากเว็บไซต์ คอมมูนิตี้ การรีวิวบอกต่อ หรือ ติดต่อคนขายเพื่อขอข้อมูลโดยตรงจากแบรนด์ได้ทันที

4. Act (การใช้บริการ)

จากการเก็บข้อมูลในข้างต้นทำให้เกิดขั้นตอนที่ผู้บริโภคตัดสินใจ เลือกซื้อ หรือใช้บริการของแบรนด์นั้นๆ ผ่านการซื้อหน้าร้านค้า ระบบออนไลน์ หรือช่องทางต่างๆ โดยมีการเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่ากับแบรนด์อื่นๆแล้วก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ โดยผ่านกระบวนการและขั้นตอนการคิดอย่างลึกซึ้งถึงปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขาย อายุของการใช้งาน หรือความคาดหวังในผลลัพธ์ที่จะได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือสินค้านั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากการใช้งาน ซึ่งในยุคปัจจุบันนั้นการมีหน้าร้านค้านั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์กับความต้องการเสมอไป การสร้างหน้าร้านของคุณในแบบออนไลน์ก็จะสามารถช่วยให้ขั้นตอนการซื้อหรือการจ่ายเงินนั้นง่ายขึ้น รวมถึงการบริการในการส่งหรือ Delivery นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคนี้ เพราะสะดวกกับคนที่ไม่สะดวกในเรื่องของเวลา และการเดินทาง

5. Advocate (ใช้ซ้ำ)

หลายครั้งที่ผู้บริโภคนั้นจะเปลี่ยนจากการเริ่มต้นใช้งานเพียงหนึ่งอย่างและเปลี่ยนเป็นลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์(Brand’s Loyalty) ด้วยการใช้ซ้ำ (Retention) และบอกต่อ (recommended) ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ตนเองได้สัมผัสให้กับคนอื่น ๆ

ซึ่งนอกเหนือจากปัจจัยต่างๆที่ได้กล่าวไว้ที่จะส่งผลในทุกช่วงของความรู้สึกและพฤติกรรมของผู้บริโภคแล้วยังมี เรื่องของ WOW Factor ที่ Philip Kotler ได้กล่าวไว้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยทำให้เรื่องราวการเดินทางของลูกค้านั้นสามารถก้าวกระโดดจาก Aware ไปสู่ Advocate ได้เร็วขึ้น

รู้จักกับเนื้อหาและหลักการสำหรับการตลาดในยุค 4.0 กันไปแล้ว สำหรับเจ้าของกิจการคนไหนที่มีไอเดียและอยากที่จะเริ่มต้นหรือปรับรูปแบบกลยุทธ์ของคุณก็อย่ารอช้า เตรียมความพร้อมและรีบลงมือทำ เพราะโอกาสไม่รอคุณเสมอไป

   

ที่มา : https://www.peerpower.co.th/blog/sme/marketing/marketing-4-0-kotler/

 8750
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์