แยกเงินใช้จ่ายส่วนตัวกับเงินเพื่อธุรกิจ
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินกิจการตัวคนเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับหลายๆสิ่งให้อยู่หมัดได้ สำหรับใครที่ใช้เงินส่วนตัวกับเงินในบัญชีธุรกิจรวมกันโดยไม่ได้มีการแยกบัญชี หรือจัดสรรปันส่วนมาก่อนนั้น เพียร์พาวเวอร์ ขอแนะนำให้คุณแยกทั้งสองบัญชีนี้ให้ชัดเจน โดยเฉพาะในกรณีของพ่อค้าแม่ค้าเจ้าของกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียนบริษัท วิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆก็คือการเปิดบัญชีใหม่ ซึ่งวิธีนี้ก็จะเป็นการบันทึกค่าใช้จ่ายต่างๆที่เข้าและออกทำให้คุณสามารถตรวจเช็คและจัดการได้ง่ายขึ้น
หรือสำหรับเจ้าของกิจการที่มีการแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีในการทำธุรกิจอยู่แล้วนั้น คุณอาจจะแยกบัญชีในการค้าขายของคุณย่อยลงไปอีก เพื่อการจัดการที่ง่ายขึ้น เช่นบัญชีสำหรับการจ่ายเงินค่าจ้างให้กับลูกน้อง บัญชีสำหรับลูกหนี้การค้าที่รอการจ่ายเงิน ทั้งนี้เพื่อให้คุณสามารถทราบรายละเอียดและการหมุนเวียนของเงินในแต่ละส่วนได้ดีขึ้น
ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
นอกจากการแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีธุรกิจแล้ว การทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดนั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำให้คุณได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและปัญหาของการเงินที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อคุณทราบถึง สาเหตุที่ทำให้การค้าขายของคุณนั้นขาดทุนแล้วก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
หาสาเหตุของปัญหาและวิธีการรับมือให้ตรงจุด
หลังจากที่คุณทราบสาเหตุแล้วว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่เป็นปัญหาหรือเป็นสาเหตุที่ทำให้กิจการของคุณนั้นต้องขาดทุนหรือไม่เป็นไปตามแแผนที่คุณตั้งใจไว้ ให้ลองหาวิธีแก้เป็นส่วนๆ เช่น หากปัญหาของธุรกิจคุณคือลูกหนี้การค้าของคุณจ่ายเงินล่าช้าจนทำให้คุณนั้นไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานได้ทันในช่วงสิ้นเดือน คุณอาจจะมองหาสินเชื่อเพื่อธุรกิจหรือ Over Draft เพื่อเพิ่มเงินทุนสำรองในส่วนนี้ให้พร้อมอยู่เสมอ หรือถ้าปัญหาของกิจการคุณคือต้นทุนในการดำเนินกิจการนั้นสูงกว่ากำไรจนทำให้กิจการของคุณนั้นขาดทุน อาจจะสามารถแก้ไขโดยการปรับโครงสร้างต้นทุน หรือ ปรับเปลี่ยนรูปแบบราคาของสินค้า หรือ ตัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการบางส่วนที่ไม่จำเป็นเพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทราบถึงปัญหาหรือข้อบกพร่องของกิจการที่แท้จริง ซึ่งหน้าที่ของผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการนั้นคือการทำการบ้านเรื่องของคู่แข่งทางการตลาด โอกาสในการดำเนินธุรกิจและแผนการดำเนินการ การอัปเดตความรู้และข้อมูลขาวสารอยู่เสมอก็เป็นอีกสิ่งที่จะทำให้คุณแก้ไขปัญหาและมองเห็นโอกาสได้มากขึ้น
ดำเนินการและควบคุมรายรับรายจ่าย
แน่นอนว่าหลังจากที่คุณทราบถึงปัญหาและวางแผนในการแก้ไขและรับมือแล้วนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คงหนีไม่พ้นการลงมือทำ แต่ว่าในระหว่างการดำเนินการนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ปล่อยวางไว้ คุณควรจะตรวจเช็คและสอดส่องอย่างใกล้ชิดเพื่อรองรับสถานการณต่างๆที่อาจเกิดโดยไม่คาดคิดและทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามแผนที่คุณวางไว้ได้ เพื่อความมั่นใจ การทำแผนสำรองเป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดีขึ้น
ที่มา:https://www.peerpower.co.th/blog/sme/management/how-to-manage-when-your-business-get-loss/