กฏหมาย สัญญา และหน้าที่ เรื่องการเช่าและให้เช่าที่อยู่อาศัย

กฏหมาย สัญญา และหน้าที่ เรื่องการเช่าและให้เช่าที่อยู่อาศัย

< กฏหมาย สัญญา และหน้าที่ เรื่องการเช่าและให้เช่าที่อยู่อาศัย





ลักษณะของสัญญาเช่าทรัพย์   

           เป็นสัญญาซึ่งตกลงกันระหว่าง "ผู้ให้เช่า" และ "ผู้เช่า" ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่ง ในชั่วระยะเวลาที่กำหนด ผู้เช่าตกลงจะให้ค่าเช่าเพื่อตอบแทนประโยชน์นั้นๆ ซึ่งสัญญานี้มีลักษณะว่าคู่สัญญาต่างเป็นทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ซึ่งกันและกัน หมายถึง ผู้เช่ามีสิทธิที่จะได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ใดๆ จากทรัพย์สินที่เช่าแต่ผู้เช่าไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เช่าแต่อย่างใด และผู้เช่าต้องให้ค่าเช่าเพื่อตอบแทนการใช้ทรัพย์สินนั้นๆ (โดยปกติจะเป็นเงินแต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินตราเสมอไปเพราะไม่มีกฎหมายห้ามไว้แต่อย่างใดอาจเป็นอาหาร ยา ฯลฯ) เช่น กรณีเช่าบ้าน ผู้เช่ามีสิทธิเพียงครอบครองอยู่อาศัยในบ้านเช่านั้น แม้จะอยู่มานานเท่าใดผู้เช่าก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ แต่ผู้เช่าให้เงินเป็นจำนวน 5,000 บาท/เดือนตอบแทนของการเช่าบ้าน
 

หลักเกณฑ์ในการทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์   

           การที่ผู้เช่าและผู้ให้เช่ามีเจตนาตกลงกันก็ถือว่าเกิดสัญญาเช่าทรัพย์แล้ว แต่สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวกับการเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ มิฉะนั้นจะใช้ฟ้องร้องบังคับคดีในศาลไม่ได้ ตัวอย่างของหลักฐานเป็นหนังสือในกรณีสัญญาเช่า เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าเช่า เป็นต้น

          สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นี้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ การเช่าแบบระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ต้องทำป็นหนังสือสัญญาเช่าโดยมีการลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนอีกประเภทคือระยะเวลาเช่าที่เกินกว่า 3 ปีไม่ว่าจะเช่าตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่านั้น กฎหมายได้กำหนดลักษณะของ หลักฐานเป็นหนังสือ ไว้ค่อนข้างยุ่งยากกว่าแบบประเภทไม่เกิน 3 ปี เพราะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้

           มีสัญญาพิเศษฉบับหนึ่งภาษาทางกฎหมายเขาเรียกว่า สัญญาต่างตอบแทนพิเศษ ซึ่งเขียนให้เข้าใจง่ายๆก็คือ สัญญาที่มีข้อตกลงพิเศษเพิ่มเติมระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่านอกเหนือไปจากค่าเช่าที่ต้องจ่าย เช่น สัญญาที่ผู้เช่าต้องซ่อมแซมต่อเติมเมื่อบ้านชำรุด ผู้เช่าต้องปลูกและดูแลต้นไม้ในที่ดินนั้นๆ

 

 หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ให้เช่า   

          ผู้ให้เช่าต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้เช่าตามสัญญา โดยทรัพย์สินนั้นๆต้องอยู่ในสภาพที่เหมาะแก่การใช้ประโยชน์ตามสัญญาเช่าด้วยตลอดระยะเวลาการเช่า เช่น เจ้าของบ้านเช่าต้องดูแล บำรุง รักษา และซ่อมแซมทรัพย์สินที่ให้เช่า ยกเว้นการซ่อมที่มีกฎหมายหรือประเพณีกำหนดให้ผู้เช่าเป็นผู้ซ่อมเองได้แก่ การซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ อย่างมุ้งลวดประตู หน้าต่างฉีกขาด กระเบื้องปูพื้นแตก 2-3 แผ่น
 

หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้เช่า

          ผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าให้แก่เจ้าของที่อยู่นั้นๆ เพราะถือว่าเป็นลูกหนี้มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนจากประโยชน์ที่ได้รับจากการเช่า ซึ่งจะมีการตกลงเวลาการชำระหนี้ไว้ในแต่ละคราว โดยปกติมักจ่ายเป็นรายเดือน นอกจากนี้ผู้เช่าต้องรักษาสภาพของที่อยู่ให้เรียบร้อยตามสภาพที่ได้รับมอบมาและต้องส่งคืนในสภาพเดิม หรือซ่อมแซมให้เรียบร้อยหากชำรุด
 

การระงับสัญญาเช่า   

         การระงับสัญญานี้อาจมีสาเหตุมาจากผลทางกฎหมาย เช่นเมื่อหมดสัญญาเช่า ผู้เช่าถึงแก่ชีวิต หรือทรัพย์สินนั้นสูญหายไปเช่นไฟไหม้ กฎหมายได้อนุญาตผู้ให้เช่าหรือผู้เช่าสามารถระงับการเช่าได้โดยมิต้องบอกกล่าว

        อีกกรณีของการระงับสัญญาเช่าอาจเนื่องมาจากการบอกเลิกสัญญาระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตามที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาเช่าระบุให้สิทธิบอกเลิก หรือเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิบัติผิดหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าในข้อสำคัญ เช่นไม่ชำระค่าเช่า หรือถ้าสัญญาเช่าเป็นแบบไม่กำหนดระยะเวลาการเช่าแต่ละฝ่ายสามารถบอกเลิกสัญญาได้ แต่ต้องบอกกล่าวให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ตัวก่อนสักระยะหนึ่งแต่ไม่จำเป็นต้องบอกก่อนล่วงหน้าเกินกว่าสองเดือน


 

เกร็ดความรู้ก่อนเช่าทรัพย์สิน   

Q: ผู้เช่าต่อเติมหรือดัดแปลงทรัพย์สินที่เช่า โดยผู้ให้เช่าไม่อนุญาตแล้วผลจะเป็นอย่างไร
A: ในกรณีผู้เช่าต่อเติมหรือดัดแปลงทรัพย์สินโดยพลการ ไม่ได้รับความยินยอมก่อนจากผู้ให้เช่านั้น กฏหมายได้ปกป้องผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องกับผู้เช่าต้องทำให้ทรัพย์สินกลับสู่สภาพเดิม และต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากผู้ให้เช่ารับรู้เรื่องการต่อเติมดัดแปลงแต่ไม่ได้ทักท้วงตั้งแต่แรก แล้วต่อไปเกิดผิดใจกันระหว่างสองฝ่ายจนถึงขึ้นฟ้องร้องขับไล่โดยอ้างการต่อเติม ผลคือผู้ให้ไม่สามารถขับไล่ได้และเลิกสัญญาได้ ถือว่าผู้ให้เช่าอนุญาตให้ดัดแปลงโดยปริยาย

Q: ผู้เช่าจะเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่ไปซ่อมแซมต่อเติมทรัพย์สินจากผู้ให้เช่าได้หรือไม่
A: ดูที่เจตนา หากการต่อเติมซ่อมแซมเพื่อประโยชน์ในกิจการของผู้เช่าเอง เช่น ต่อเติมเพื่อความสะดวกสบาย ทำให้สวยงามขึ้น แต่ไม่ใช่ทำเพื่อรักษาทรัพย์สินที่เช่าก็ไม่สามารถเรียกร้องค่าใช้จ่ายนี้ได้ แต่ถ้าผู้เช่าซ่อมแซมในส่วนที่จำเป็นและสมควรเพื่อรักษาทรัพย์สิน ไม่ใช่เป็นการบำรุงรักษาตามปกติเล็กๆน้อยๆ ถึงแม้ผู้ให้เช่าจะอ้างว่าไม่ได้ตกลงให้ทำ แต่ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นส่วนนี้

Q: ไม่ใช่เจ้าของแล้วเอาทรัพย์สินไปให้เช่า ผู้เช่าจะปฏิเสธไม่จ่ายค่าเช่าได้หรือไม่
A: ไม่ได้ เพราะผู้เช่าได้รับประโยชน์จากการเช่าแล้วจะอ้างว่าผู้ให้เช่าไม่ใช่เจ้าของแล้วไม่ชำระค่าเช่าไม่ได้ เป็นหน้าที่ที่ผู้เช่าต้องจ่าย



ที่มา : softbizplus.com

 15395
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์