ทำธุรกิจอย่างไรไม่ให้โดนภาษีย้อนหลัง

ทำธุรกิจอย่างไรไม่ให้โดนภาษีย้อนหลัง

ทำธุรกิจอย่างไรไม่ให้โดนภาษีย้อนหลัง



การทำธุรกิจกับการจ่ายภาษีนั้นถือเป็นของคู่กัน โดยภาษีสำหรับธุรกิจนั้น จะมีหลากหลายประเภทกว่าภาษีรายได้บุคคลธรรมดาทั่วไป จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่เจ้าของกิจการต้องทำความเข้าใจให้ดี เพื่อให้การเสียภาษีนั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และลดปัญหาที่จะโดนเรียกภาษีย้อนหลัง

แนวทางการป้องกันการถูกเรียกภาษีย้อนหลัง มีดังนี้

  1. ทำความเข้าใจภาษีธุรกิจทุกประเภท

เมื่อไหร่ที่เราทำธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคล ธุรกิจนั้นจะต้องจ่ายภาษีทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

  • ภาษีเงินได้นิติบุคคลฯ เมื่อธุรกิจมีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด แปลว่าธุรกิจมีกำไร โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลฯ จะคิดจากกำไรของผลประกอบการประจำปีของบริษัท
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่ายมีค่าใช้จ่ายบางประเภทที่ธุรกิจมีการจ่ายเงินออกไปแล้วตามกฎหมายกำหนดว่าต้องมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย เช่น ค่าจ้าง ค่าเช่า ค่าบริการ ฯลฯ เจ้าของธุรกิจต้องทำการหักให้ถูกต้องเพราะถือเป็นหน้าที่
  • ภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรียกติดปากกันว่า VAT นั้น จะมีทั้ง VAT ซื้อ (เกิดขึ้นเมื่อธุรกิจจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการ) และ VAT ขาย (เกิดขึ้นเมื่อธุรกิจมีรายได้จากการขายและให้บริการ) ธุรกิจจะต้องยื่นรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มทุกเดือน และต้องชำระเงินส่วนต่างเมื่อมีภาษีมูลค่าเพิ่มจากรายได้มากกว่าภาษีมูลค่าเพิ่มจากรายจ่าย
  • อากรแสตมป์ คือ ภาษีที่จะต้องจ่ายเมื่อมีการทำสัญญาใดๆ เกิดขึ้น เช่น สัญญาเช่า
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีเฉพาะสำหรับธุรกิจบางประเภท ซึ่งเจ้าของกิจการต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมว่าธุรกิจของตนเอง เข้าข่ายเป็นธุรกิจเฉพาะหรือไม่

 

  1. ชำระภาษีให้ถูกต้อง

สิ่งสำคัญที่สุดในการจัดการเรื่องภาษีสำหรับเจ้าของกิจการ คือ ความตั้งใจที่จะเสียภาษีให้ถูกต้อง โดยปกติการเสียภาษีไม่ถูกต้องนั้นเกิดจากสาเหตุหลักแค่ 2 ประการ คือ ประการแรก เกิดจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าเรื่องใดต้องเสียภาษีบ้าง และประการที่สอง คือ การตั้งใจหลบเลี่ยงภาษี แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใดก็ตาม หากธุรกิจไม่ได้เสียภาษีครบถ้วน ธุรกิจนั้นก็ต้องเสียค่าปรับพร้อมโดนเรียกภาษีย้อนหลังเหมือนกัน โดยจะใช้เหตุผลว่าไม่รู้ไม่ได้

กรณีที่น่าเป็นห่วงที่สุดสำหรับทุกธุรกิจ คือ การพยายามหลบเลี่ยง เพราะถ้าเจ้าของธุรกิจมีความตั้งใจจะหลบเลี่ยงแล้ว การทำงานทั้งหมดขององค์กรจะกลายเป็นร่วมมือกันทั้งหมด ขอให้เข้าใจว่าการปกปิดข้อมูลนั้นทำได้ยากขึ้นทุกทีและได้ไม่คุ้มเสียเมื่อมีการตรวจพบและทำให้ต้องเสียค่าปรับได้

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสมอ

กรมสรรพากรจะมีการเปลี่ยนแปลงหรืออกกฎหมายใหม่ๆ เกี่ยวกับการเสียภาษีอยู่เสมอ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีนั้นเหมาะสมและทันกับวิธีการทำงานของธุรกิจในปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นต้องศึกษากฎระเบียบใหม่เหล่านี้อยู่เสมอ

การเสียภาษีให้ถูกต้อง เป็นหน้าที่ที่ธุรกิจทุกประเภทจะต้องจัดการให้ถูกต้องเรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนด หากมีประเด็นใดไม่แน่ใจในรายละเอียด ให้รีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริษัทรับทำบัญชีหรือสรรพากรเขตพื้นที่ที่ธุรกิจจัดตั้งอยู่ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

Cr. https://sme.krungthai.com/

 61
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์