How to สร้าง Interaction ทางอีเมล์

How to สร้าง Interaction ทางอีเมล์





 

         มีหลายครั้งที่นักการตลาดในต่างประเทศพูดถึงการทำการตลาด และการกระตุ้นยอดขายทางอีเมลว่ายังเป็นช่องทางที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ ถึงแม้ว่าคนบางส่วนจะมองว่าอีเมลเป็นวิถีดั้งเดิม ไม่มีปฏิสัมพันธ์ หรือ interaction ที่สร้างประโยชน์ให้กับแบรนด์ได้ หากเทียบกับช่องทางอื่นในปัจจุบัน

โดยข้อมูลจาก Smart Insights เปิดเผยว่า มีไม่ถึง 60% ของนักการตลาดที่เชื่อมั่นในอีเมลว่าจะทำให้แคมเปญพวกเขาประสบความสำเร็จตามเป้า

         อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของ Matt Harris, co-founder และ CEO ของ Dyspatch ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางอีเมล และโซลูชั่นในแพลตฟอร์มอีเมลจากแคนาดา ได้พูดว่า อีเมลยังเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างประโยชน์มหาศาลให้กับธุรกิจหรือแบรนด์ได้ หากรู้จักพัฒนาหรือหาโซลูชั่นที่เหมาะสม รวมไปถึงการดีไซน์อีเมลให้น่าดึงดูด และสะดวกสำหรับผู้ใช้งาน อย่างธุรกิจที่จำเป็นต้องสร้างความประทับใจจากประสบการณ์ลูกค้าที่ดีไซน์ขึ้นมาโดยเฉพาะ

ปัญหาของอีเมลไม่ใช่วิถีการตลาดที่ล้าสมัย แต่เป็นกรอบกรอบการทำงาน ดีไซน์เนื้อหาข้างในอีเมลต่างหากที่ล้าสมัย และต้องปรับปรุงตามยุคสมัย”

ส่วนหนึ่งของปัญหาคือ กล่องจดหมายล้น เพราะคนรู้สึกว่าไม่อยากเปิดอีเมลหลังจากที่เปิดมาแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีความแตกต่างจาอีเมลอื่นๆ”

คุณ Matt Harris ได้พูดอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจคือ ผู้คนได้รับอีเมลที่มากเกินความจำเป็น นี่คือปัญหาที่ทำให้นักการตลาดตัดกลยุทธ์ทางอีเมลออกไป ทั้งๆ ที่เป็นแพลตฟอร์มสร้างประโยชน์ได้

 

ปัญหาหลักที่ทำให้กล่องจดหมาย(อีเมล) ถูกเพิกเฉย

สรุปปัญหาหลักๆ อีกครั้งของที่มากล่องจดหมายเต็ม ในมุมมองของ Matt Harris

  • เนื้อหาไม่น่าสนใจ ไม่แตกต่างจากที่อื่น
  • ไม่มีการปฏิสัมพันธ์ (interaction) ที่ดี เป็นเพียงอีเมล one-way
  • วิวัฒนาการของเทคโนโลยีทางอีเมลล้าหลัง
  • อีเมลจากปลายทางคนๆ หนึ่ง หรือธุรกิจ/บริษัท ส่งจดหมายเข้ามาเกินความจำเป็น

 

คนใช้สมาร์ทโฟนมากกว่าคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีดีไซน์อีเมลต้องเปลี่ยน

        ในเมื่อยุคสมัยนี้ผู้คนใช้โทรศัพท์มากกว่าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ดังนั้น ทุกรูปแบบของแพลตฟอร์มต่างๆ รวมทั้งอีเมลจำเป็นต้องเปลี่ยนตาม เช่น วิธีการใช้แบบเลื่อนจอขึ้น-ลง หรือปัดหน้าจอซ้าย-ขวามากขึ้น ทั้งยังคุ้นชินกับการคลิกและการ zoom-in และ zoom-out ได้ผ่านจอโทรศัพท์

ดังนั้น รูปแบบการใช้อีเมลจำเป็นต้องอิงกับพฤติกรรมและอุปนิสัยของผู้ใช้ในปัจจุบันเช่นกัน อย่างเช่น การดีไซน์ และเพิ่มเทคโนโลยีบางอย่างเข้ามาที่จะช่วยให้อีเมลมี interactive ระหว่างผู้รับและผู้ส่งมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ยกตัวอย่างโซลูชั่นของ Dyspatch ที่ช่วยหลายๆ บริษัทสำหรับการพัฒนาอีเมลให้เป็นมากกว่าอีเมลแบบดั้งเดิม เช่น

  • ฟีเจอร์เพื่อการตอบโต้ภายในอีเมล เช่นบริษัท LendingTree แพลตฟอร์มกลางเพื่อบริการการกู้ยืมเงินออนไลน์ (จากผู้ให้บริการหลายราย) โดยจะมีฟีเจอร์สำหรับการเลื่อนเพื่อคำนวนเงินกู้, การพูดคุยกับสินเชื่อโดยตรง, การเปรียบเทียบเงินกู้จากหลายบริษัทบนแพลตฟอร์ม ฯลฯ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเป็นเพียงและเลื่อนดูในอีเมลเดียว

 

  • เทคโนโลยี Personalized upsells เพื่อช่วยนักการตลาดหรือธุรกิจสามารถปิดยอดขายได้มากขึ้น โดยในอีเมลจะมีการแนะนำสินค้าที่คล้ายกับที่พวกเขากำลังสนใจ หรือบางแบรนด์สามารถเพิ่ม offers เข้าไปในสินค้า/บริการนั้นๆ ในอีเมลเดียวได้เลย

 

  • เทคโนโลยีแบบเรียลไทมส์สำหรับการแจ้งเตือนใหม่ แทนที่แบรนด์จะส่งอีเมลใหม่เพื่ออัปเดตสถานะการจัดส่งสินค้า พวกเขาสามารถอัปเดตสถานะภายในอีเมลแรกได้เลย ช่วยหลีกเลี่ยงการสร้างความน่ารำคาญให้กับผู้ซื้อ ซึ่งทุกๆ ครั้งที่พวกเขาเปิดอีเมลดูจะเห็นสถานะล่าสุดของสินค้า โดยไม่ต้องคลิกลิงก์เพื่อไปยังหน้าอื่นต่อ

        “ช่วงหลายปีที่ผ่านมาการมีส่วนร่วมในอีเมลลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้น ดังนั้น การที่เราเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ สร้างวิวัฒนาการที่น่าสนใจให้กับอีเมล เหมือนเป็นการชุบชีวิตให้กับแพลตฟอร์มนี้อีกครั้ง เพื่อใช้ศักยภาพของอีเมลได้อย่างเต็มที่” Matt Harris พูดทิ้งท้ายในการประชุม MarTech เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน



ที่มา : www.marketingoops.com

 573
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์