เชื่อว่าตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 เกือบจะ 2 ปี ทุกคนต่างก็รู้ว่าธุรกิจไหนบ้างที่พอจะได้อานิสงส์จากวิกฤตไวรัสครั้งนี้ อย่างน้อยๆ ต้องมีลิสต์ของธุรกิจ delivery อย่างแน่นอน รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นดิจิทัล เป็น remote business ทั้งหลาย แต่รู้หรือไม่ว่า มีอีกหนึ่งธุรกิจที่บางคนอาจจะเซอร์ไพรส์ ก็คือ ธุรกิจขายรถยนต์มือ 2 หรือรถยนต์ที่ใช้แล้ว (used-car) ที่มาแรงมากเหมือนกัน
มีงานวิจัยของ Ken Research บริษัทวิจัยด้านการตลาดในอินเดีย ที่เปิดเผยล่าสุดเมื่อเดือน ส.ค. 2021 เกี่ยวกับธุรกิจรถยนต์มือ 2 ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในอินเดีย หรือเอเชียเท่านั้น เพราะแม้แต่ประเทศในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกาเองก็ให้ความสนใจตลาดนี้เช่นกัน ตั้งแต่ที่โลกเข้าสู่การแพร่ระบาด
โดยข้อมูลในรายงานของ Ken Research ได้เจาะไปที่ ‘ประเทศไทย’ (Thailand Used Car Market Outlook To 2025) เป็นหนึ่งในประทศที่ยกตัวอย่างในรายงานนี้ ในฐานะที่เป็นประเทศที่มีอัตราการซื้อรถยนต์มือ 2 สูงในช่วงวิกฤต COVID-19 (เทียบกับตลาด SEA) ถึงแม้ว่าธุรกิจรถยนต์มือ 2 ในไทยจะได้รับความนิยมอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่จะมีไวรัส (แต่ก็ซบเซาลงเพราะโครงการรถคันแรกของรัฐบาล)
อย่างไรก็ตาม ในระยะ 1-2 ปีมานี้ พบว่า ความคึกคัก (traffic) ของผู้บริโภคไทยเกี่ยวกับรถยนต์มือ 2 น่าสนใจขึ้นมาก โดยเฉพาะ ‘รถกระบะ’ ที่กินส่วนแบ่งการตลาดรถมือ 2 ที่คนไทยนิยมซื้อมากที่สุด (ติดต่อกัน 5 ปีต่อเนื่อง)
นอกจากนี้ข้อมูลของ Google Trends ที่ระบุว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการค้นหา ‘แบรนด์รถยนต์มือ 2’ มากขึ้นจนน่าตกใจ ไม่ใช่แค่ในไทย แต่หมายถึงคนทั่วโลก ขณะเดียวกัน ร้านขายรถยนต์มือ 2 หรือร้านที่เปิดประมูลรถเพิ่มการลงทุนกับการโฆษณาออนไลน์ และใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นในการขายรถ
“การใช้งบกับการโฆษณาออนไลน์ สะท้อนว่า ตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดผู้บริโภคใช้การค้นหาแบรนด์รถมือ 2 รวมทั้งซื้อและขายรถยนต์มือ 2 ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ผลต่อเนื่องจากที่มีมาตรการล็อกดาวน์เกือบจะทั้งโลกในช่วงแรกๆ ของวิกฤต”
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยดีมานด์การซื้อรถยนต์มือ 2 เพิ่มขึ้นชัดเจนตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 จนถึงปี 2021 ที่ดีมานด์ยังเพิ่มขึ้น หรือแสดงว่ากำลังสนใจซื้อรถมือ 2 มีมากขึ้น
ทั้งนี้ รายงานของ Ken Research ระบุ Top 5 ในตลาดรถยนต์มือ 2 ของไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ดีมานด์รถยนต์มือ 2 ในต่างประเทศ
อย่างที่บอกไปว่าไม่ใช่แค่ในไทยที่มีแนวโน้มว่า ตลาดรถยนต์มือ 2 กำลังฟื้นตัวขึ้น แต่ในหลายประเทศทั่วโลกกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในช่วงการแพร่ระบาด
อย่างเช่น ผลสำรวจของ heycar บริษัทที่จำหน่ายรถมือ 2 รายใหญ่ในสหราชอาณาจักร (UK) และในเยอรมนี ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2020 ที่การแพร่ระบาดรุนแรง ทำให้การค้นหารถยนต์มือ 2 เพิ่มขึ้นกว่าปกติ ซึ่งในช่วงเดือนแรกที่มีล็อกดาวน์ แนวโน้มความสนใจที่จะซื้อรถ ที่รวมทั้งการค้นหา, การสอบถาม, การวางเงินมัดจำกับตัวแทนจำหน่ายของ heycar เพิ่มขึ้นกว่า 200%
ขณะที่ยอดซื้อล่าสุดของรถยนต์มือ 2 ใน UK เพิ่มขึ้น 108% ในไตรมาส 2/2021 อันนี้เป็นตัวเลขจาก heycar รายเดียวเท่านั้น
ทั้งนี้ รายงานของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์และผู้ค้า (SMMT) ระบุว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีรถยนต์ที่เพิ่มเข้ามา (ผ่านการจ่ายภาษี) มากกว่า 2.2 ล้านคัน โดยเห็นได้ชัดว่าเป็นรถยนต์มือ 2 ที่เติบโตขึ้นกว่า 6.6% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ไม่มี COVID-19
Sam Abuelsamid นักวิเคราะห์จาก Guidehouse Insights ได้แสดงความคิดเห็นใน Consumer Reports เกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ ระบุว่า “พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ที่มีการการแพร่ระบาด หลายประเทศส่วนใหญ่ผู้คนเลือกที่จะซื้อรถเป็นของตัวเอง แทนที่จะใช้ระบบขนส่งมวลชนแบบเดิม แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยกันทั้งโลก ทำให้ตัวเลือกอย่างรถยนต์ที่ใช้แล้ว กลายมาเป็นพระเอกในยุคนี้”
ขณะเดียวกัน การที่ผู้คนส่วนใหญ่ต้องทำงานยจากที่บ้านเป็นหลัก ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายหยุดการผลิตชั่วคราว โดยอ้างข้อมูลจาก AlixPartners บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่อัพเดทว่า มีรถยนต์ใหม่ออกสู่ตลาดน้อยลงเกือบ 4 ล้านคันในปี 2021 นั่นเป็นเพราะว่าทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ และผู้ผลิตหลักหยุดการผลิตชั่วคราว และปัจจัยของชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่เริ่มจะขาดแคลน
ราคารถยนต์มือ 2 เพิ่มขึ้นตามดีมานด์
ไม่ใช่เป็นการประเมินหรือคาดการณ์ แต่รายงานของ edmunds.com เปิดเผยในเดือน ก.ค. 2021 ว่าราคารถยนต์มือ 2 เพิ่มขึ้นแล้วจากดีมานด์ที่สูงลิ่วทั่วโลก โดยราคาเฉลี่ยของรถยนต์มือ 2 ปัจจุบัน (Q2/2021) อยู่ที่ 25,410 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 830,907 บาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2020 ราคาอยู่ที่ 20,942 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 684,803 บาท)
อย่างรายงานของ Kelley Blue Book ในสหรัฐฯ ที่ระบุว่า ราคาเฉลี่ยสำหรับรถยนต์มือ 2 ในหสรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกมาอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 817,500 บาท) ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งยังอธิบายให้เห็นภาพว่า โดยปกติตลาดรถยนต์มือ 2 ในสหรัฐฯ ราคาจะเพิ่มขึ้น 1-2% สูงสุด 5% ต่อปี แต่สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ตรรกะการตลาดนี้ไม่ได้ผล เพราะมันแพงขึ้นจนน่าตกใจ
ทั้งยังประเมินว่า หากสถานการณ์ยังแย่ และภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถกลับไปเพิ่มการผลิตได้เหมือนเดิม แน่นอนว่าราคาของรถยนต์มือ 2 ที่เราได้มาอาจจะมีราคาใกล้กับมือ 1 เหมือนซื้อรถใหม่แบบนั้นเลย เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปแล้ว และกว่าที่ความเชื่อมั่นที่จะกลับมาใช้ระบบขนส่งมวลชนเช่นเดิมดีขึ้น คงต้องใช้เวลาสักพัก
ที่มา : www.marketingoops.com
