บัญชีธุรกิจ Start up นักบัญชีต้องรู้

บัญชีธุรกิจ Start up นักบัญชีต้องรู้



เรื่องที่นักบัญชีควรทราบเบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจ Start Up ในประเด็นต่าง ๆ มีอะไรบ้าง ลองติดตามกันดูครับ

ประเด็นที่นักบัญชีควรทราบดังต่อไปนี้

1. มาตรฐานการบัญชีและรายงานทางบัญชีที่ใช้

สำหรับธุรกิจ Start Up ที่จัดตั้งกิจการในรูปแบบนิติบุคคล จะต้องมีหน้าที่จัดทำและนำเสนอรายงานทางบัญชีหรือรายงานทางการเงินตามกฎหมายตามมาตรฐานการบัญชี ซึ่งมาตรฐานการบัญชีในปัจจุบันที่ใช้ในประเทศไทยมีจำนวนทั้งหมด 2 ชุด ได้แก่

  • มาตรฐานการบัญชีสำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ
  • มาตรฐานการบัญชีสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ

ข้อแตกต่างที่สำคัญนำมาแสดงในตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้

มาตรฐานการบัญชีสำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสีย สาธารณะ มาตรฐานการบัญชีสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ
ชื่อเรียกภาษาอังกฤษ Publicly Accountable Entities ชื่อเรียกภาษาอังกฤษ Non-Publicly Accountable Entities
ปรับปรุงตามมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ จำนวนบทของหัวเรื่องมีตายตัวเพียง 22 บท
มีข้อกำหนดให้เสนอ “กำไรต่อหุ้น” ในรายงาน ไม่มีข้อกำหนดให้เสนอ “กำไรต่อหุ้น” ในรายงาน
ผู้ใช้รายงานทางการเงินเป็นบุคคลทั่วไป รวมถึง นักลงทุน ผู้ใช้รายงานทางการเงินส่วนใหญ่เป็นเจ้าของและบุคคลอื่นที่สนใจ  เช่น  เจ้าหนี้  ผู้ให้กู้ยืม เป็นต้น


แนวโน้มในการใช้มาตรฐานการบัญชีสำหรับธุรกิจ Start Up ที่นิยมเลือกใช้ คือ มาตรฐานการบัญชีสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (NPAE) โดยมีข้อดีที่สำคัญ คือ การได้เรียนรู้แนวคิดของมาตรฐานการบัญชีสำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (PAE) แต่ไม่ต้องทำตามทั้งหมด  เพราะ NPAE จัดทำขึ้นและประกาศใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนหนึ่งเพื่อให้นักบัญชีเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรฐานการบัญชีสากล ซึ่งจะเป็นชุด PAE ต่อไป

 

2. การเตรียมสำหรับการรายงานความคลื่อนไหวของบัญชีเงินสด

สำหรับธุรกิจ Start Up ที่ยังไม่จดเป็นนิติบุคคล แต่ยังทำธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา แม้ว่าอาจไม่บังคับให้จัดทำบัญชีในรูปแบบเช่นเดียวกับนิติบุคคล แต่ในการเสียภาษีก็จะมีหลักเกณฑ์เฉพาะสำหรับรูปแบบบุคคลธรรมดา อย่างไรก็ตาม ในเร็ว ๆ นี้ รายการเคลื่อนไหวทางบัญชีที่จดบันทึกไว้จากการดำเนินธุรกิจ เช่น รายการซื้อ  รายการขาย  รายการรับเงิน และรายการจ่ายเงิน จะมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการที่ต้องมีการรายงานธุรกรรมเงินสดตามที่กฎหมายกำหนด  ซึ่งในทางบัญชีแล้วหมายถึงการจัดทำสมุดเงินสดรับและสมุดเงินสดจ่าย เพื่อเป็นที่รวบรวมและคำนวณหายอดรายการเงินสดคงเหลือนั่นเอง สำหรับการรายงานธุรกรรมเงินสดนั้น กำหนดให้หน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่เราเป็นผู้รายงานให้แก่หน่วยงานราชการ  ผู้ที่ทำหน้าที่ในการรายงาน เช่น สถาบันการเงิน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ที่ได้รับข้อมูลดังกล่าวตามกฎหมายอาจมีหลายหน่วยงานราชการ และนับวันอาจมีจำนวนหน่วยงานราชการที่ต้องได้รับข้อมูลมากขึ้น โดยหนึ่งในหน่วยงานราชการดังกล่าวอาจเป็นกรมสรรพากร



ที่มา: dharmnit

 1014
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์