เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม กรมสรรพากร

เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม กรมสรรพากร



การเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามกฎหมายภาษีของกรมสรรพากรมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้เสียภาษีปฏิบัติตามกำหนดเวลาในการยื่นและชำระภาษีอย่างถูกต้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

เบี้ยปรับ

เบี้ยปรับเป็นมาตรการทางแพ่งที่ใช้ลงโทษผู้เสียภาษีที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากร โดยแบ่งออกเป็นสองกรณี

1. กรณีเคยยื่นแบบแสดงรายการภาษีมาก่อน

• ชำระภายใน 1–15 วัน หลังพ้นกำหนด : คิดเบี้ยปรับ 2% ของภาษีที่ต้องชำระ
• ชำระภายใน 16–30 วัน : คิดเบี้ยปรับ 5%
• ชำระภายใน 31–60 วัน : คิดเบี้ยปรับ 10%
• ชำระภายหลัง 60 วัน : คิดเบี้ยปรับ 20%

2. กรณีไม่เคยยื่นแบบแสดงรายการภาษีมาก่อน

• ชำระภายใน 1–15 วัน : คิดเบี้ยปรับ 2% × 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระ
• ชำระภายใน 16–30 วัน : คิดเบี้ยปรับ 5% × 2 เท่า
• ชำระภายใน 31–60 วัน : คิดเบี้ยปรับ 10% × 2 เท่า
• ชำระภายหลัง 60 วัน : คิดเบี้ยปรับ 20% × 2 เท่า

หมายเหตุ : เศษของเดือนนับเป็น 1 เดือนในการคำนวณเบี้ยปรับ

เงินเพิ่ม

เงินเพิ่มเป็นมาตรการทางแพ่งที่ใช้ลงโทษผู้เสียภาษีที่ไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลา โดยคิดในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของภาษีที่ต้องชำระ (เศษของเดือนนับเป็น 1 เดือน)

ค่าปรับทางอาญา

ค่าปรับทางอาญาเป็นการลงโทษทางอาญาตามกฎหมายภาษีอากร เช่น การไม่ยื่นแบบภาษีหรือยื่นแบบล่าช้า กฎหมายกำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท (อายุความ 1 ปี ตามมาตรา 95 แห่งประมวลกฎหมายอาญา)

สรุป

• เบี้ยปรับ : เป็นมาตรการทางแพ่งที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของภาษีที่ต้องชำระ โดยคำนวณตามระยะเวลาที่ชำระภาษีล่าช้า
• เงินเพิ่ม : เป็นมาตรการทางแพ่งที่คิดเป็นอัตราร้อยละ 5 ต่อเดือนของภาษีที่ต้องชำระ
• ค่าปรับทางอาญา : เป็นการลงโทษทางอาญาตามกฎหมายภาษีอากร

หากคุณต้องการคำนวณเบี้ยปรับและเงินเพิ่มสำหรับภาษีที่ต้องชำระ สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประเภทภาษี จำนวนภาษีที่ต้องชำระ และวันที่ชำระ เพื่อให้สามารถคำนวณได้อย่างถูกต้อง

เขียนและเรียบเรียงโดย : บริษัท โปรซอฟท์ ซีอาร์เอ็ม จำกัด | 18 มิถุนายน 2568